วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

อุปกรณ์นำเข้าข้อมูล (Input Device)

  อุปกรณ์นำเข้า(Input Device)เป็นอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการนำ

ข้อมูลหรือชุดคำสั่งเข้ามายังระบบเพื่อให้คอมพิวเตอร์ประมวลผล

ต่อไปได้ ซึ่งอาจเป็นตัวเลข ตัวอักษร ภาพกราฟิก เสียง หรือวิดีโอ 

เป็นต้น อุปกรณ์นำข้อมูลเข้าที่พบเห็นได้ในปัจจุบันพอจะยกตัวอย่า

ได้ดังนี้


1. อุปกรณ์แบบกด (Keyed Device 
          1.1 คีย์บอร์ด 
(Keyboard) เป็นอุปกรณ์นำข้อมูลเข้าที่นิย


ใช้กันมากที่สุดและพบเห็นในการใช้งานทั่วไป โดยรับข้อมูลป้อน

เข้าที่เป็นตัวอักษร อักขระพิเศษ ตัวเลข รวมถึงชุดคำสั่งต่าง ๆ ตัว

อุปกรณ์จะมีกลุ่มของแป้นพิมพ์วางเรียงต่อกันเหมือนกับเครื่องพิมพ์

ดีด ผู้ใช้งานสามารถเลือกกดปุ่มใด ๆ ได้ทันที โดยข้อมูลทั้งหมดที่

ป้อนเข้ามาจะถูกส่งเข้าไปเก็บยังหน่วยความจำของระบบและแปลง

ให้เป็นรหัสที่คอมพิวเตอร์เข้าใจเสียก่อน จากนั้นจึงจะนำไปประมวล

ผลต่อไป ปัจจุบันอาจพบเห็นคีย์บอร์ดประเภทต่าง ๆ ได้ดังนี้



                (1) คีย์บอร์ดมาตรฐาน ( Standard keyboard ) เป็น

คีย์บอร์ดที่นิยมใช้กันโดยทั่วไป มีลักษณะคล้ายกับแป้นพิมพ์บน

เครื่องพิมพ์ดีด โดยปกติจะประกอบด้วยกลุ่มของแป้นพิมพ์หลัก ๆ 

ดังต่อไปนี้ 



          •  แป้นพิมพ์ตัวอักขระ ( alphabetic key ) เป็นกลุ่มของแป้น

พิมพ์ซึ่งมีบริเวณใหญ่ที่สุด ประกอบด้วยแผงอักขระสำหรับการ

ป้อนข้อมูลที่มีทั้งตัวอักษร ตัวเลขและอักขระแบบพิเศษทั่วไป


         •  แป้นสำหรับควบคุมทิศทาง ( cursor-movement key ) 

เป็นกลุ่มของแป้นพิมพ์สำหรับควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่ของ

เคอร์เซอร์และเปลี่ยนจุดหรือบริเวณการทำงาน


         •  แป้นฟังก์ชัน ( function key ) เป็นกลุ่มของแป้นพิมพ์

สำหรับการเลือกคำสั่งลัดที่มีอยู่ในบางประเภท แป้นเหล่านี้จะอยู่บน

แถวแรกสุดของคีย์บอร์ด


       •  แป้นควบคุม ( control key ) เป็นกลุ่มของแป้นพิมพ์สำหรับ

สั่งการบางอย่างร่วมกับปุ่มอื่น ๆ บางครั้งนิยมเรียกว่า modifier keys

 เช่นCtrl , Alt , Shift เป็นต้น


      •  แป้นป้อนข้อมูลตัวเลข ( numeric keypad ) เป็นกลุ่มของแป้น

พิมพ์สำหรับการป้อนค่าข้อมูลที่เป็นตัวเลขเพื่อช่วยในการบันทึก

ข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น การป้อนข้อมูลเพื่อคำนวณหรือ

หาผลลัพธ์ทางบัญชี



             (2) คีย์บอร์ดติดตั้งภายใน ( Built-in keyboard ) เป็น

คีย์บอร์ดที่ปรับขนาดของแป้นพิมพ์ให้เล็กลง พบเห็นในการใช้งาน

กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ประเภทพกพา เช่น โน๊ตบุ๊คหรือเดสก์โน๊ต 

ซึ่งมีพื้นที่ในการใช้งานค่อนข้างจำกัด แป้นพิมพ์นี้จะถูกติดตั้งมา

พร้อมกับการผลิตเครื่องอยู่แล้ว





               (3)คีย์บอร์ดเออร์โกโนมิกส์ ( Ergonomic keyboard 

) เป็นคีย์บอร์ดที่มีการออกแบบโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายแล

ความปลอดภัยของผู้ใช้งานเป็นหลัก เนื่องจากการป้อนข้อมูลเป็น

เวลานาน ๆ อาจจะทำให้เกิดความเมื่อยล้าจากการพิมพ์จนเกิดการ

บาดเจ็บเนื่องจากเส้นอักเสบได้ จึงมีการออกแบบแป้นพิมพ์ใหม่ 

เช่น เพิ่มอุปกรณ์สำหรับการวางมือและออกแบบทิศทางสำหรับการ

จัดวางแป้นพิมพ์ใหม่ให้สัมพันธ์กับสรีระของมนุษย์มากขึ้น ปัจจุบัน

จะพบเห็นคีย์บอร์ดชนิดนี้เข้ามาแทนที่คีย์บอร์ดมาตรฐานกันมากขึ้น 

เนื่องจากช่วยลดปัญหาในเรื่องการบาดเจ็บของข้อมือได้เป็นอย่างดี



  (4) คีย์บอร์ดไร้สาย ( Cordless keyboard ) คีย์บอร์ดแบบ

มาตรฐานที่ใช้กันทั่วไป อาจไม่มีความสะดวกสบายมากพอเมื่อ

ต้องการใช้งานในระยะที่ไกลจากโต๊ะทำงาน อีกทั้งการดึง ย้าย หรือ

เปลี่ยนที่ของอุปกรณ์ยังทำให้เกิดความยุ่งยาก เนื่องจากตัวสาย

ของคีย์บอร์ดเชื่อมต่ออยู่กับตัวเครื่องตลอดเวลา เมื่อเกิดหลุดก็ไม่

สามารถทำงานต่อไปได้ ดังนั้นจึงได้มีการคิดค้นเพื่อสร้างคีย์บอร์ด

แบบใหม่ที่อาศัยการส่งผ่านข้อมูลโดยเทคโนโลยีไร้สายขึ้นและ

ทำงานโดยใช้พลังงานแบตเตอรี่แทน ทำให้สามารถย้ายคีย์บอร์ด

ไปวางยังตำแหน่งใด ๆ ที่อยู่ในรัศมีของสัญญาณนอกเหนือจากโต๊

ทำงานได้ 



              (5)คีย์บอร์ดพกพา ( Portable keyboard ) เมื่ออุปกรณ์

ประเภทเครื่องพีดีเอได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น การทำงานบางอย่า

ที่ต้องอาศัยการป้อนข้อมูลเข้าไป เช่น พิมพ์ข้อความรายงาน 

จดหมายหรือบันทึกการประชุม จะเกิดความไม่สะดวก เพราะตัว

เครื่องมีขนาดเล็ก หากใช้ปากกาช่วยเขียนก็จะทำได้ช้ากว่า จึงมี

การสร้างคีย์บอร์ดที่สามารถพกพาไปยังที่ต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เพียง

แค่กางออกมาก็สามารถใช้ได้เหมือนกับคีย์บอร์ดปกติ




                     (6) คีย์บอร์ดเสมือน ( Virtual keyboard ) เป็น

อุปกรณ์ที่พัฒนาขึ้นสำหรับใช้ร่วมกับเครื่องพีดีเอเช่นเดียวกันกับ

คีย์บอร์ดพกพา แต่ต่างกันตรงที่มีการจำลองภาพให้เป็นเสมือน

คีย์บอร์ดจริง โดยอาศัยการทำงานของแสงเลเซอร์ยิงลงไปบนโต๊ะ

หรืออุปกรณ์รองรับสัญญาณที่เป็นพื้นผิวเรียบ เมื่อต้องการใช้งานก็

สามารถพิมพ์หรือป้อนข้อมูลที่เห็นเป็นภาพเหมือนแผงแป้นพิมพ์นั้น

เข้าไปได้เลย ตัวรับแสงในอุปกรณ์จะตรวจจับได้เองว่าผู้ใช้วางนิ้ว

ไหนไปกดตรงตัวอักษรใด







2. อุปกรณ์ชี้ตำแหน่ง (Pointing Device)

       2.1 
เมาส์ ( Mouse ) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ชี้ตำแหน่งการทำงาน

รวมถึงสั่งการให้คอมพิวเตอร์ทำงานบางคำสั่งที่มีการโต้ตอบกัน

ระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ โดยใช้มือเป็นตัวบังคับทิศทางและใช้

นิ้วสำหรับการกดเลือกคำสั่งงาน สามารถพบเห็นได้ ประเภท ดังนี้

                 
เมาส์แบบทั่วไป ( Mechanical mouse ) เป็นเมาส์ที่


ได้รับการออกแบบโดยใช้ลูกบอลเป็นตัวจับทิศทางที่เมาส์เลื่อนไป 

ลูกบอลของเมาส์มีลักษณะเป็นลูกกลม ๆ ทำจากยางกลิ้งอยู่ด้าน

ล่าง ซึ่งจะลากผ่านแผ่นรองเมาส์ ( mouse pad ) และกลไกภายใน

จะจับได้ว่ามีการเลื่อนไปมากน้อยแค่ไหนและในทิศใด สำหรับส่วน

บนจะมีปุ่มให้เลือกกดประมาณ 2-3 ปุ่ม ขึ้นอยู่กับบริษัทผู้ผลิต บาง

แบบอาจมีปุ่มล้อที่หมุน (scroll ) และกดได้เพื่อควบคุมการทำงาน

ขึ้นลงของสโครลบาร์ในหน้าต่างโปรแกรมบางประเภท



                      เมาส์แบบแสงหรือออปติคอลเมาส์ ( Optical mouse ) การใช้เมาส์แบบทั่วไปที่ใช้ลูกบอล มีข้อเสียคือ เมื่อใช้ไปนาน ๆ ลูกบอลจะกลิ้งผ่านและเก็บเอาฝุ่นละอองเข้าไปด้วย ฝุ่นเหล่านี้จะจับตัวกันหนาขึ้น ส่งผลให้กลไกในการทำงานผิดเพี้ยนไปมาก จึงมีการสร้างเมาส์แบบใหม่ขึ้นมาเรียกว่า เมาส์แบบแสง หรือ ออปติคอลเมาส์ เพื่อใช้แก้ปัญหานี้ เมาส์แบบใหม่นี้ทำงานได้โดยไม่ต้องใช้ล้อหมุนแต่ใช้แสงไปกระทบพื้นผิวด้านล่าง วงจรภายในจะวิเคราะห์แสงสะท้อนที่เปลี่ยนไปเมื่อเลื่อนเมาส์และแปลงทิศทางเป็นการชี้ตำแหน่ง ซึ่งปัจจุบันมีทั้งที่เป็นแบบต่อกับคอมพิวเตอร์โดยใช้สายและแบบไม่ใช้สาย



        2.2 ลูกกลมควบคุม (Track ball) เป็นอุปกรณ์ที่มีหลักการ

ทำงานคล้ายกับเมาส์ โดยมีลูกบอลติดตั้งไว้ส่วนบนเพื่อใช้สำหรับ

ควบคุมทิศทาง เมื่อผู้ใช้หมุนลูกบอลก็คือการย้ายตำแหน่งตัวชี้

นั่นเอง ลักษณะของลูกบอลมีขนาดใหญ่กว่าเมาส์มาก ส่วนใหญ่จะ

นำไปใช้ติดตั้งแยกต่างหาก เพื่อช่วยให้การทำงานกับคอมพิวเตอร์

แบบพกพาสะดวกมากยิ่งขึ้น ในบางรุ่นอาจติดตั้งแทรคบอลอยู่ไว้

ภายในด้วย แต่ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมใช้กันแล้ว





         2.3  แท่งชี้ควบคุมหรือพอยติงสติ๊ก ( Pointing stick ) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับชี้ตำแหน่งข้อมูลเช่นเดียวกัน มีลักษณะเป็นก้อนเล็ก ๆ คล้ายกับยางลบดินสอ จะติดตั้งอยู่ตรงส่วนกลางของแป้นพิมพ์ในคอมพิวเตอร์แบบพกพา การควบคุมทิศทางของตัวชี้จะใช้นิ้วมือเป็นตัวบังคับเพื่อเลื่อนทำงานเช่นเดียวกัน โดยเมื่อดันให้แท่งนี้โยกไปทิศทางใด ลูกศรบนจอก็จะเลื่อนไปในทิศทางนั้น







            2.4 จอยสติ๊ก ( Joystick ) เป็นอุปกรณ์ที่พบเห็นได้กับการ

ทำงานที่เกี่ยวข้องกับเกมคอมพิวเตอร์เป็นส่วนใหญ่ 

เนื่องจากการใช้เมาส์เพื่อบังคับทิศทางนั้นอาจไม่รองรับกับรูปแบบ

ของบางเกมได้ จึงนำเอาจอยสติ๊กมาใช้แทน เช่น การ

บังคับทิศทางซ้าย ขวา หน้า หลัง หรือบังคับทิศทางในระดับองศาที่

แตกต่างกันในการควบคุมอากาศยานหรือท่าต่อสู้ของตัว

ละคร ซึ่งทำให้เกมมีความสมจริงมากกว่าการใช้เมาส์นั่นเอง




               2.5  แผ่นรองสัมผัสหรือทัชแพด ( Touch pad ) เป็น

อุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมบาง ๆ ติดตั้งไว้อยู่

ในคอมพิวเตอร์แบบพกพา เพื่อใช้ทำงานแทนเมาส์ เมื่อกดสัมผัส

หรือใช้นิ้วลากผ่านบริเวณดังกล่าวก็สามารถทำงานแทน

กันได้ โดยมากจะติดตั้งไว้บริเวณด้านล่างของแป้นพิมพ์






                  



                2.6 จอสัมผัสหรือทัชสกรีน ( Touch screen ) เป็น

อุปกรณ์ที่สามารถใช้นิ้วมือแตะบังคับหรือสั่งการไปยังหน้า

จอคอมพิวเตอร์ได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องใช้เมาส์หรือแป้นพิมพ์ มัก

พบเห็นได้ตามตู้ให้บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว ตู้ ATM 

บางธนาคาร เครื่องออกบัตรโดยสาร รถไฟฟ้า หรือพบเห็นในตู้เกม

บางประเภท เช่น เกมประเภทจับผิดภาพ เกมประเภท

ทำนายดวงชะตา เป็นต้น






                   2.7 พวงมาลัยพังคับทิศทาง (Wheel) เป็นอุปกรณ์ที่

ใช้กับการเล่นเกมเหมือนกับจอยสติ๊ก พบเห็นได้กับเกม

จำลองประเภทแข่งรถหรือควบคุมทิศทางของยานพาหนะ มีลักษณะ

เหมือนกับพวงมาลัยบังคับทิศทางในรถยนต์จริง เพื่อ

ให้เกมจำลองนั้น ๆ มีความสมจริงมากยิ่งขึ้น อาจมีการใช้งานร่วมกับ

อุปกรณ์เหยียบเบรกจำลอง ( pedal ) และตัวเร่ง

ความเร็วจำลอง ( accelerator ) ด้วย










3. ประเภทปากกา ( Pen-Based Device )
     3.1 ปากกาแสง ( Light pen ) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการ

กำหนดตำแหน่งบนจอภาพรวมถึงการป้อนข้อมูลเข้าแทน

แป้นพิมพ์ เอามาใช้เขียนหรือวางตำแหน่งบนจอภาพคอมพิวเตอร์

ประเภทที่ใช้หลอดภาพหรือ CRT ได้เลย มักใช้ร่วมกั

โปรแกรมประเภทช่วยการออกแบบหรือ CAD (computer aided 

design) เพื่อให้การทำงานมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น 

เนื่องจากสามารถลากหรือวาดทิศทางได้ง่าย แต่มีความละเอียด

แม่นยำไม่สูงนัก เพราะถูกจำกัดด้วยความละเอียดของ

จอภาพ ปัจจุบันได้รับความนิยมน้อยลง








         3.2 ดิจิไทเซอร์ ( Digitizer ) หรืออุปกรณ์อ่านพิกัด มักใช้

ร่วมกับอุปกรณ์ประเภทปากกาหรือในงานความละเอียดสูงจะใช้กับหัว

อ่านที่เป็นกากบาทเส้นบาง ( crosshair ) เพื่อให้ชี้ตำแหน่งโดย

ละเอียด ทำหน้าที่เป็นเสมือนกระดานรองรับการเขียนข้อความ วาด

ภาพหรือออกแบบงานที่เกี่ยวกับกราฟิกเป็นหลัก ทำให้มีความคล่อง

ตัวและสะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น







        3.3 สไตลัส ( Stylus ) เป็นอุปกรณ์ประเภทปากกาป้อนข้อมูล

ชนิดหนึ่งที่นิยมใช้กันมากในคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก 

เช่น พีดีเอ แท็บเล็ตพีซี หรืออาจพบเห็นในสมาร์ทโฟนบางรุ่น ผลิต

มาเพื่อใช้เขียนหนังสือด้วยลายมือหรือวาดเส้นลงบน

หน้าจออุปกรณ์ได้โดยตรง ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่อำนวย

ความสะดวกในการทำงานมากยิ่งขึ้น โดยจะทำ

หน้าที่แปลงรหัสในการเขียน (ที่คล้ายจดชวเลขในสมัยก่อน) ไปเป็น

ตัวอักษรที่คอมพิวเตอร์สามารถประมวลผลและใช้

งานต่อได้ทันที เช่น นำไปจัดเก็บในสมุดรายชื่อ หรือเก็บบันทึก

ข้อความที่เขียนไว้เป็นไฟล์เพื่อเรียกใช้งานต่อไป






4. ประเภทข้อมูลมัลติมีเดีย ( Multimedia Input Device)

        4.1 ไมโครโฟน ( Microphone ) เป็นอุปกรณ์รับข้อมูล

ประเภทเสียงพูด ( Voice ) เข้าสู่ระบบ ใช้บันทึกหรืออัดข้อมูล

เสียงในสตูดิโอหรือตามบ้านทั่วไป การทำงานจะใช้ร่วมกับซอฟต์แวร์

ด้านมัลติมีเดีย นอกจากนี้ไมโครโฟนยังสามารถใช้

ร่วมกับระบบจดจำเสียงพูดหรือvoice recognition (แต่ในขณะนี้ยังไม่

สนับสนุนเสียงภาษาไทย) เพื่อทำงานบางอย่างได้ 

เช่น ใช้เสียงพูดผ่านไมโครโฟนเข้าไปแทนการพิมพ์ข้อมูลรายงานได้

เลย โดยที่คอมพิวเตอร์จะทำการแปลงความหมาย

และประมวลผลผ่านเสียงที่ผ่านเข้ามาเป็นตัวอักษรโดยอัตโนมัติ 

เป็นต้น





         4.2 กล้องถ่ายวิดีโอดิจิตอล ( Digital Video camera ) 

เรียกย่อ ๆ ว่ากล้องประเภท DV ซึ่งเป็นกล้องวิดีโอแบบดิจิตอล

นั่นเอง กล้องประเภทนี้สามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวและบันทึกเก็บ

หรือโอนถ่ายลงคอมพิวเตอร์ได้เช่นเดียวกัน แต่จำเป็นต้องใช้พื้นที่

เก็บข้อมูลที่มีขนาดใหญ่พอสมควร โดยมากจะบันทึกลงเทปขนาด

เล็กในรูปแบบดิจิตอลก่อน (บางรุ่นอาจลงแผ่น CD-R หรือ DVD-R 

ที่บันทึกได้แทน) จากนั้นจะถ่ายโอนวิดีโอไปลงคอมพิวเตอร์ หรือจะ

เรียกดูภายหลังจากในกล้องก็ได้





           4.3 กล้องถ่ายรูปดิจิตอล ( Digital camera ) เป็นอุปกรณ์

รับข้อมูลประเภทภาพถ่ายดิจิตอล ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมเป็น

อย่างมาก เนื่องจากราคาของกล้องประเภทนี้ถูกลงและสามารถ

บันทึกเก็บหรือถ่ายโอนลงคอมพิวเตอร์ได้โดยง่าย อีกทั้งภาพถ่ายที่

ได้ในกล้องบางรุ่นยังมีความละเอียด ความคมชัดเทียบเคียงหรือ

มากกว่ากล้องธรรมดาบางรุ่น หรือหากจะนำไปอัดขยายต่อเป็น

ภาพถ่ายปกติก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน




             4.4 เว็บแคม ( Web cam ) เป็นกล้องถ่ายวิดีโออีก

ประเภทหนึ่งที่ใช้สำหรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวเช่นเดียวกัน แต่ภาพ

ที่ได้จะหยาบและมีขนาดไฟล์เล็กกว่ากล้องแบบ DV มาก จึงนิยมใช้

สำหรับการเผยแพร่ข้อมูลลงบนอินเทอร์เน็ตหรือนำไปใช้ประโยชน์

กับโปรแกรมสนทนาบนเว็บบางประเภท เพื่อให้เห็นหน้าตาของคู่

สนทนาระหว่างที่พิมพ์โต้ตอบกัน ปัจจุบันเว็บแคมมีราคาถูกลงอย่าง

มาก และยังสามารถบันทึกได้ทั้งภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่งด้วย





5. ประเภทสแกนและอ่านข้อมูลด้วยแสง(Scanner and Optical

 Reader)
       5.1 สแกนเนอร์ ( Scanner ) เป็นอุปกรณ์อ่านข้อมูลประเภท

ภาพถ่าย โดยผู้ใช้เพียงแค่วางภาพถ่ายหรือเอกสารลงไปบนแท่นวาง

แล้วสั่งให้เครื่องอ่านหรือสแกน ก็สามารถเก็บรูปภาพหรือเอกสาร

สำคัญต่าง ๆ เหล่านั้นไว้ในคอมพิวเตอร์ได้ หลักการทำงานจะเหมือน

กับเครื่องถ่ายเอกสารคือ ใช้ลำแสงกวาดแผ่นกระดาษหรือเอกสารนั้น 

แล้วส่งภาพเข้าคอมพิวเตอร์เพื่อแปลงเป็นสัญญาณดิจิตอลและเรียก

ใช้ต่อไป




          5.2 โอเอ็มอาร์ ( OMR – Optical Mark Reader ) เป็น

เครื่องที่นำไปใช้ประโยชน์ในการตรวจข้อสอบหรือคะแนน

ของกลุ่มบุคคลจำนวนมาก เช่น การสอบเอ็นทรานซ์ การสอบวัด

ระดับภาษาอังกฤษ การสอบเข้ารับราชการของ

สำนักงาน ก.พ. โดยจะอ่านเครื่องหมาย (Mark ) ที่ผู้เข้าสอบได้

ระบายไว้ในกระดาษคำตอบ ซึ่งโดยปกติจะต้องใช้ดินสอ

ที่มีความเข้มมากพอที่จะให้เครื่องอ่านได้ (ปกติจะอยู่ที่ความ

เข้มระดับ 2 B ขึ้นไป) หากใช้ดินสอที่มีความเข้มต่ำกว่าระดับที่

กำหนด อาจทำให้เครื่องไม่สามารถอ่านได้ชัดเจน







             5.3 เครื่องอ่านบาร์โค้ด ( Bar code reader ) ตัวเลข


ของรหัสสินค้าที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูลของระบบสินค้า

คงคลังจะมีจำนวนหลักค่อนข้างมาก เมื่อต้องการเรียกใช้หรือตรวจ

สอบโดยการป้อนข้อมูลผ่านแป้นพิมพ์จะทำให้เกิด

ความผิดพลาดได้ง่าย (เช่น ป้อนตัวเลขผิด) จึงเกิดแนวความคิดใน

การพิมพ์รหัสสินค้าออกมาเป็นรหัสแท่งสีดำและขาว

ต่อเนื่องกันไปเรียกว่า บาร์โค้ด ( bar code ) ซึ่งนำไปใช้พิมพ์แทน

รหัสตัวเลขของสินค้าอุปโภค บริโภคทั่วไป เพื่อสะดวก

ต่อการตรวจเช็คข้อมูลสินค้าคงเหลือรวมไปถึงการคิดเงินนั่นเอง 

เครื่องที่อ่านรหัสนี้เราเรียกว่า เครื่องอ่านบาร์โค้ด ( bar 

code reader ) มีหลายรูปแบบ เช่น หัวอ่านมีด้ามจับคล้ายปืน หรือ

บางแบบก็ฝังในแท่นของเครื่องเก็บเงินสดเลย พบเห็น

ได้ตามจุดบริการขาย ( POS – Point Of Sale ) ในร้านอาหาร ร้าน

สะดวกซื้อ หรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป





            5.4 เอ็มไอซีอาร์ ( MICR – Magnetic-Ink Character 

Recognition ) เรียกย่อ ๆ ว่าเครื่อง เอ็มไอซีอาร์ ( MICR – 

Magnetic-Ink Character Recognition ) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้อ่านตัว

อักษรด้วยแสงของเอกสารสำคัญ เช่น เช็คธนาคาร ซึ่งมี

การพิมพ์หมายเลขเช็คด้วยผงหมึกสารแม่เหล็ก ( magnetic ink ) 

เป็นแบบอักษรเฉพาะ มีลักษณะเป็นลายเส้นเหลี่ยม (ดัง

รูป) พบเห็นได้ในการประมวลผลเช็คสำหรับธุรกิจด้านธนาคาร






6. ประเภทตรวจสอบข้อมูลทางกายภาพ ( Biometric Input 

Device )




      ไบโอเมตริกส์ ( biometric ) เป็นลักษณะของการตรวจสอบ


ข้อมูลส่วนตัวบุคคลเฉพาะอย่าง เช่น ลายนิ้วมือ รูปแบบของม่านตา 

(เรตินา -ratina ) ฝ่ามือ หรือแม้กระทั่งเสียงพูด ซึ่งนำมาใช้กับงาน

ป้องกันและรักษาความปลอดภัยในหน่วยงานที่ต้องการความ

ปลอดภัยในระดับสูง เนื่องจากระบบการตรวจสอบประเภทนี้จะปลอม

แปลงได้ยาก เครื่องที่ใช้อ่านข้อมูลพวกนี้จะมีอยู่หลายประเภทขึ้นอยู่

กับลักษณะการตรวจสอบ เช่น เครื่องอ่านลายนิ้วมือ เครื่องตรวจ

ม่านตา เครื่องวิเคราะห์เสียงพูด เป็นต้น



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น